วันนี้มีเคล็ดลับการจัดทางเดินและการจัดชั้นวางสินค้า มาแนะนำ
หากตกแต่งหน้าร้าน และจัดพื้นที่ในร้านค้าออกมาได้อย่างดี ก็จะสามารถทำให้เพิ่มจำนวนลูกค้าให้เดินเข้ามาในร้านได้ และถือว่าเป็นการสร้างภาพลักษณ์ให้กับแบรนด์หรือธุรกิจร้านค้าที่คุณสร้างขึ้นมาได้อีกด้วย
แผนผัง Grid
การจัดวางแผนผังที่หลายๆ คนอาจคุ้นเคย ซึ่งร้านค้าส่วนใหญ่มักใช้กัน เนื่องจากการจัดวางสินค้าจะแสดงในรูปแบบทางเดินยาว เพื่อทำให้ลูกค้าสามารถหาของที่ต้องการซื้อได้อย่างง่ายดาย และยังลดพื้นที่สีขาวให้เหลือน้อยที่สุด เพื่อเป็นการใช้พื้นที่ให้เต็มไปด้วยการจัดวางสินค้านั่นเอง
โดยส่วนมากร้านที่จัดวางแผนผังในรูปแบบนี้ จะเป็นร้านค้าประเภท ร้านสะดวกซื้อ 7-11 , Family mart ,ร้านขายยาทั่วไป ,ห้างสรรพสินค้า ซึ่งร้านค้าที่กล่าวมาเป็นประเภทร้านค้าที่มีสินค้าหลากหลาย การจัดแผนผังแบบนี้จึงทำให้มองเห็นสินค้าได้ชัดเจน และมีทางเดินที่สะดวกสามารถเลือกซื้อสินค้าได้ง่าย
แผนผังร้านแบบ Herringbone
เป็นผังร้านค้าคล้ายๆ แบบ Grid แตกต่างตรงที่การจัดวางสินค้าถูกแยกออกไว้เป็นสองฝั่งและติดผนัง ทำให้ไม่มีทางเดินทะลุผ่านกันได้ เรียกว่าเป็นการจัดผังร้านแบบ "ก้างปลา" ร้านที่นิยมใช้จะเป็นร้านที่มีพื้นที่น้อย แต่มีสินค้าจำนวนมาก จึงเหมาะกับร้านที่ลูกค้ามีความตั้งใจที่จะซื้อสินค้านั้นมากๆ เพราะต้องใช้เวลาในการอยู่กับชั้นวางเหล่านั้นนานโดยที่ไม่ทำให้เบื่อ ส่วนมากการจัดผังแบบนี้จะเป็น ร้านหนังสือ หรือ ร้านฮาร์ดแวร์ขนาดเล็ก และ ห้องสมุดชุมชนขนาดเล็ก เป็นต้น
แผนผังร้านแบบ Loop (Racetrack)
หรือที่เรียกว่า "ผังร้านค้าแบบลู่วิ่ง" ซึ่งก็ยังคล้ายกับผังแบบ Grid แต่มีการนำมาปรับใช้ให้ง่ายขึ้น
โดยจะจัดวางเป็นวงแบบปิดโดยรอบ เพื่อให้ลูกค้าเดินผ่านสินค้าทุกประเภท ในทุกๆ ชั้นวาง ตั้งแต่ทางเข้าไปจนถึงจุดชำระเงิน” และมีส่วนตรงกลางเป็นไฮไลท์ของร้าน หรือสินค้าโปรโมชั่น
การจัดวางผังแบบนี้เหมาะมากๆ กับร้านค้าที่ขายเสื้อผ้า , ร้านสกินแคร์และเครื่องสำอาง , ร้านอุปกรณ์กีฬา หรือ แม้แต่ร้านเฟอร์นิเจอร์ชื่อดังอย่า IKEA ก็ยังเลือกใช้การจัดวางแผนผังร้านแบบนี้เช่นกัน
แผนผังร้านแบบ Free-Flow
เป็นการจัดแผนผังร้านแบบ “อิสระ” ซึ่งการจัดร้านแบบนี้จะกระจายตัวสินค้า และไม่ได้บังคับให้ลูกค้าเดินไปทางใดทางหนึ่ง แต่จะเน้นที่ความสบายใจของลูกค้าแทน โดยเน้นไปที่สินค้าและตำแหน่งการจัดวางให้องค์ประกอบดูน่าสนใจแต่ไม่ดูมั่วซั่ว
การจัดวางผังร้านแบบนี้จะทำให้ร้านดูสบายตา เหมาะกับร้านขนาดเล็ก หรือร้านระดับไฮเอนด์ ที่มีสินค้าน้อย แต่ต้องการเน้นความสวยงาม การจัดร้านในรูปแบบนี้จึงสามารถสร้างประสบการณ์ในการช้อปปิ้งที่ดีให้ลูกค้าได้ และยังสามารถผสมผสานกับแผนผังแบบอื่นได้อีกด้วย
การวางแผนผังร้านไม่ได้จำกัดว่าควรเลือกใช้แบบเดียว สามารถเลือกใช้แบบอื่นมาผสมผสานกันได้ ขึ้นอยู่กับรูปแบบร้าน หรือ ความต้องการของเจ้าของร้าน เพื่อให้เหมาะสมกับร้านของคุณที่สุด
เรียบเรียงโดย : V45 GROUP
Comments